จากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (2019-nCoV) ในปีที่ผ่านมา ต่อมาองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้มีการประกาศยกระดับภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขของความกังวลระหว่างประเทศ (PHEIC) ในวันที่ 30 มกราคม 2563 (1) จนถึงวันนี้เป็นเวลามากกว่า 1 ปีแล้วที่ประชากรทั่วโลกต้องปรับวิถีชีวิตให้สามารถดำเนินต่อไปภายใต้การแพร่ระบาดใหญ่ในครั้งนี้ ที่ยังคงไว้ซึ่งการระบาดอย่างไม่มีทีท่าว่าจะจบสิ้นเมื่อใด สิ่งที่ประชาชนทำได้มีเพียงแต่การปรับตัวให้พร้อมรับกับสถานการณ์เพียงเท่านั้น
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทยนั้น ระลอกแรกเกิดขึ้นในช่วงต้นปี 2563 รัฐบาลได้ประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วทั้งประเทศตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม ถึง 30 เมษายน 2563 และยังได้ออกมาตรการปิดเมือง (Lockdown) เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้สถานศึกษา ห้างสรรพสินค้า สวนสาธารณะ สนามกีฬา ร้านอาหาร สถานบันเทิง และสถานที่ต่าง ๆ อีกมากมายต้องปิดชั่วคราว เมื่อสถานการณ์ระบาดของโรคในประเทศเริ่มดีขึ้น ไม่พบผู้ติดเชื้อภายในประเทศ รัฐบาลจึงได้ประกาศมาตรการผ่อนปรนเป็นระยะ ๆ ทำให้สถานที่ในข้างต้นได้กลับมาเปิดอีกครั้ง และต่อมาในช่วงเดือนธันวาคม 2563 ประเทศไทยก็ได้พบกับการระบาดระลอกใหม่ (Newly Emerging) ซึ่งการระบาดในระลอกนี้ ร้อยละ 90 ของผู้ติดเชื้อไม่มีอาการซึ่งทำให้เกิดการแพร่ระบาดสู่ผู้อื่นได้ง่ายจึงเกิดการติดเชื้อจำนวนมากและกระจายไปในวงกว้างอย่างรวดเร็ว (2)
ทิศทางแนวโน้มการฟื้นตัวของกิจกรรมทางกายโลก
ทางรัฐบาลสิงคโปร์เริ่มลงมือส่งเสริมกิจกรรมทางกายของประชากรภายในประเทศโดยทำความร่วมมือกับบริษัท Apple ในการร่วมกันพัฒนาแอปพลิเคชันส่งเสริมสุขภาพ ในชื่อว่า LumiHealth ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันที่เน้นส่งเสริมกิจกรรมและพฤติกรรมสุขภาพให้เพิ่มมากขึ้น โดยใช้ Apple Watch เป็นเครื่องมือในการติดตามผล ซึ่งความร่วมมือนี้เป็นหนึ่งในโครงการ Smart nation ภายใต้การสนับสนุนหลักของรัฐบาลสิงคโปร์ LumiHealth จะใช้ประโยชน์จาก Apple Watch เพื่อเป็นเครื่องมือในการกระตุ้นและส่งเสริมให้ชาวสิงคโปร์ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตให้มีกิจกรรมทางกายเพิ่มขึ้น โดยมีการแจ้งเตือนผ่านแอปพลิเคชัน ที่ออกแบบมาให้โปรแกรมมีลักษณะสร้างแรงจูงใจให้เหมาะสมกับผู้ใช้งาน แนะนำกิจกรรมทางกายต่าง ๆ ที่น่าสนใจ เช่น การเดิน ว่ายน้ำ โยคะ และกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย และเมื่อผู้ใช้งานสามารถทำตามโปรแกรมที่วางไว้อย่างครบถ้วน ผู้ใช้งานสามารถลงทะเบียนขอรับรางวัลได้สูงสุดถึง 380 ดอลล่าสิงคโปร์ “แม้ว่าทั่วโลกกำลังเผชิญกับความท้าทายของสถานการณ์โควิด-19 แต่สิงคโปร์ยังคงสนับสนุนการลงทุนเพื่ออนาคต ซึ่งไม่มีการลงทุนใดจะสำคัญเท่าการลงทุนกับสุขภาพ” ตามคำกล่าวของ Heng Swee Keat รองนายกรัฐมนตรี แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลสิงคโปร์ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมสุขภาพของประชากรภายในประเทศเป็นอย่างมาก (3)
© 2021. All Rights Reserved.